|
Post Number: 1
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 22 Mar. 2009,23:03 |
|
 |
昆明คุนหมิง
การไปท่องเที่ยวเมืองคุนหมิงในครั้งนี้ก็เพราะโรงเรียนดนตรีที่จันทบุรีเขาพาคณะครูไปเที่ยว ทางเราก็ขอเป็นผู้ติดตามไปด้วย ก็คงจะให้ชมภาพเป็นส่วนใหญ่ เพราะไม่ค่อยจะมีข้อมูล ทั้งนี้เพราะไม่ได้ค้นคว้า ฟังๆไกด์พูดแล้วก็ถ่ายรูปมาให้ชมกัน (ไม่ได้ถ่ายภาพเองอีกต่างหาก แหะๆ )
นั่งเครื่องบินจากสนามบินสุวรรณภูมิเป็นเวลา 2 ชั่วโมงก็ถึงคุนหมิงเป็นที่เรียบร้อย

ไกด์บอกว่า คุณหมิงเป็นเมืองเอกของมณฑลยูนนานซึ่งมณฑลนี้มีประชากรทั้งหมดประมาณ 40 กว่าล้านคน ในเมืองคุนหมิงรถติดเหมือนกรุงเทพฯ และกำลังก่อสร้างทางด่วนอยู่ คาดว่าถ้าทางด่วนเสร็จแล้วก็จะแก้ปัญหารถติดไปได้
ที่นี่มีรถยนต์มากมายหลายยี่ห้อ แต่ที่มีมากที่สุดก็ยี่ห้อของประเทศจีนเอง คันจะเล็กกว่ารถประเภทเดียวกัน อย่างเช่น รถตู้จะแคบเล็กกว่ารถตู้ในเมืองไทย นอกจากนั้นก็ยังมีจักรยาน

ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ในตัวเมืองคุนหมิง ทางการจะบังคับให้ใช้รถแบตเตอรี่ที่จำกัดความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. เสียงเบาและไม่มีควัน

ช่วงนี้ถนนก็สวยงามไปด้วยดอกซากุระ(ของจีน)
|
 |
|
|
Post Number: 2
|
วันดี 
เก่าสุดๆ

      
กลุ่ม: สมาชิกประจำ
จำนวนโพสต์: 1017
เข้าร่วมเมื่อ: 07 Sep. 2002
อัตรานิยม: ไม่มี
|
 |
โพสต์เมื่อ: 23 Mar. 2009,06:05 |
|
 |
ฮั่นแน่ เท่แฮะ มีเขียนภาษาจีนด้วย
ไปต่อค่ะ
จะคอยดูรูปว่าคุนหมิงเป็นอย่างไรบ้างในวันนี้
|
 |
|
|
Post Number: 3
|
pilgrim 
เก่าสุดๆ

      
กลุ่ม: สมาชิกประจำ
จำนวนโพสต์: 2230
เข้าร่วมเมื่อ: 16 Jun. 2005
อัตรานิยม: ไม่มี
|
 |
โพสต์เมื่อ: 23 Mar. 2009,08:49 |
|
 |
พี่แอ๊ด เสือปืนไวจริงๆ หลวงพระบางของหนูยังบ่ได้ขยับเลย...ฮิๆๆๆ
ตอนนี้ปืนฝืด ชักไม่ออก
คุนหมิง...คนเยอะจริงๆ จ้า...
--------------

All days come from one day.
|
 |
|
|
Post Number: 4
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 23 Mar. 2009,21:42 |
|
 |
ก็กลัวทิ้งไว้นานยิ่งขี้เกียจเขียนล่ะนะพิล แต่หลวงพระบางอย่าเพิ่งฝีดนะ พี่อยากอ่านอยากชม อยากไปเที่ยวด้วยสิ
พี่วันดีคะ คนที่เคยไปคุนหมิงเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ได้แต่ร้องว่า จำอะไรแทบไม่ได้ แต่พอไปสถานที่ท่องเที่ยวก็ร้องว่า คุ้นๆ
พอเราไปถึงคุนหมิงประมาณบ่าย 2 โมงกว่า ไกด์ก็รีบพาเราไปชมโรงเรียนดนตรี KUNMING FIRST PROFESSIONAL SPECIALIZED MIDDLE SCHOOL แต่กว่าจะไปถึงรถก็ติดน่าดูเหมือนกัน
โรงเรียนนี้ก็เป็นโรงเรียนสอนด้านวิชาชีพด้านการดนตรี และงานบริการต่างๆ รับประกันว่าจบแล้วจะสามารถทำงานได้เลย ในชั้นเรียนยังมีการเรียนและฝีกซ้อมต่างๆเช่น
การแสดงบนเวที
ซ้อมแอคคอร์เดียน
อาจารย์เล่นเปียโนให้พวกเราฟัง La prière d'une vierge ของ Badarzewska (ลองฟังเพลงนี้ที่คนอื่นเล่นhttp://www.youtube.com/watch?v=loJY25HOIr4)
ลูกศิษย์ก็เล่นเพลง ริชาร์ด เคลเดอร์แมน

หลังจากนั้น คณะอาจารย์ก็พาพวกเราไปฟังบรรยายเรื่องโรงเรียนของเขา พร้อมตอบข้อซักถาม ข้อข้องใจต่างๆ ในห้องประชุมนั้นยังคงมีธงแดงค้อนเคียวติดประดับอยู่ด้วย
|
 |
|
|
Post Number: 5
|
แมวเหมียว 
แม่ครัวโจ๊กน้ำใส

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 3991
เข้าร่วมเมื่อ: 23 Oct. 2003
อัตรานิยม: ไม่มี
|
 |
โพสต์เมื่อ: 24 Mar. 2009,15:44 |
|
 |
นี่เจอแล้ว.ตามระหัสลับมาเกือบหาไม่เจอแน่ะค่ะพี่แอ๊ด
พี่วันดีกับคุณพิลนี่ไวจริงๆนะคะ
|
 |
|
|
Post Number: 6
|
วันดี 
เก่าสุดๆ

      
กลุ่ม: สมาชิกประจำ
จำนวนโพสต์: 1017
เข้าร่วมเมื่อ: 07 Sep. 2002
อัตรานิยม: ไม่มี
|
 |
โพสต์เมื่อ: 25 Mar. 2009,13:09 |
|
 |
คงจะอย่างนั้นแหละค่ะคุณadd เพราะชีวิตนั้นสั้น ธรรมชาติสิยืนยาว
เอ เกี่ยวกันรึเปล่าน้า
เอาเป็นว่า คนที่เคยอยู่ที่นั่นหลายคนอำลามหามิตรกันไปบ้างแล้ว เวลาเอ่ยถึงคุนหมิงจึงใจหายยังไงไม่รุ
|
 |
|
|
Post Number: 7
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 25 Mar. 2009,21:53 |
|
 |
ค่ะ ก็คงอย่างนั้นแหละ สวัสดีทุกๆคนค่ะ
ไกด์บอกกับเราว่า ถ้าเราเห็นของหายาก 3 อย่างในประเทศจีนแล้วจะโชคดี ถามว่าของสิ่งนั้นคืออะไร?
สิ่งแรกก็คือ ปั๊มน้ำมัน ซึ่งมีอยู่น้อยมาก เราเริ่มโชคดีแล้วที่ตาไวเหลือบไปเห็น

หลังจากนั้น ไกด์หนุ่มจีนจากสิบสองปันนา ซึ่งพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างชัดมากๆ ก็พาพวกเราไปชมตำหนักทองสัมฤทธิ์ ซึ่งสร้างขึ้นโดย อู๋ซานกุ้ย ฉายา "คนขายชาติ" ไกด์เล่าประวัติศาสตร์ได้ละเอียดลออ จนลูกทัวร์หลับไปเป็นแถวๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขามีข้อมูลที่ดีจริง อ่านเรื่อง อู่ซานกุ้ย
ตำหนักนี้อยู่บนเนินเขาซึ่งมีต้นสนอยู่เต็ม เป็นตำหนักที่สวยงาม





มีต้นไม้ต้นหนึ่งซึ่งดูทรุดโทรมมาก แต่คนมาถึงก็จะต้องไปลูบต้นไม้ดี ไม่ใช่เพราะความเป็นศิริมงคล แต่เป็นเพราะ เขาเรียกว่า "ต้นไม้จั๊กจี้" พอเราไปถูที่โคนต้น ที่ยอดมันจะสั่นไหว ทั้งๆที่โคนมันใหญ่เกินกว่าที่เราเราจะเขย่ามันได้ คนก็เลยไปมะรุมมะตุ้มต้นไม้อย่างที่เห็น คนเรานี่ก็แปลกนะ รู้ว่าใครบ้าจี้ก็ต้องไปแหย่ ถึงขนาดว่าเป็นต้นไม้ก็เหอะ
ทุกหนทุกแห่งของตำหนักแห่งนี้ เต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้





หลังจากร่ำไรกันจนเย็นแล้ว ไกด์ก็บอกให้เราเตรียมตัวขึ้นรถ แต่ก็มีเสียงร้องหวีดว้ายดังมาจากด้านล่าง จากสิ่งก่อสร้างหลังคาจีนทรงสวยงาม
(แล้วค่อยมาเฉลยนะพี่น้องว่าใครร้องทำไม ใครอยากทายก็ทายได้เลยจ้ะ )
|
 |
|
|
Post Number: 8
|
pakae 
เก่าสุดๆ

      
กลุ่ม: สมาชิกประจำ
จำนวนโพสต์: 1105
เข้าร่วมเมื่อ: 14 Jun. 2005
อัตรานิยม: ไม่มี
|
 |
โพสต์เมื่อ: 25 Mar. 2009,23:32 |
|
 |
หนี่ห่าวค่ะทุกคน
วิ่งตามหารหัสลับมากับเขาด้วยคนจ้า แต่ยังไม่มีคำตอบสำหรับคำทายนิ อิอิอิ
|
 |
|
|
Post Number: 9
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 05 May 2009,22:10 |
|
 |
มาเล่าต่อนะ หลังจากที่มีอะไรๆมากมายเกิดขึ้นในช่วงครึ่งเดือนหลังของเดือนเมษายน ปีใหม่ไทย...จนหลายๆคนเบื่อหน่ายกับสภาพอะไรๆหลายๆอย่าง ช่างเผือก ช่างมันเถอะนะ เดี๋ยวเราก็จะชินไปเอง
เสียงร้องหวีดว้ายที่ว่านั้นคือ มีลูกหลานเข้าห้องน้ำ แล้วเจอของดีอันไม่พึงประสงค์ คือของดีสำหรับคนจีน คิดว่างั้น แต่คนไทยเรารับไม่ได้ที่จะเห็นของเสียของคนอื่น แหะๆ
ค่ำนั้นเขาก็พาเราไปกินสุกี้สารพัดเห็ด ที่ภัตตาคารแห่งหนึ่ง มีหม้อไฟกลางโต๊ะ มี มีเห็ด มีแป้งรูปร่างต่างๆ แล้วก็ผักจานใหญ่ๆ แต่จานที่ให้เรากินเป็นถ้วยเล็กนิดเดียวขนาดเท่าถ้วยแบ่ง
อาหารลดน้ำหนักนะนี่ ถามว่าอร่อยไหม ต้องตอบว่า พอรับประทานได้ และพวกเราไม่กลัวเพราะมีน้ำพริกติดตัวมาอยู่แล้ว ทั้งน้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาป่นอะไรทำนองนี้
คนเสิร์ฟและจัดการต้มสุกี้ให้เราแต่งตัวแบบชนชาติ แถมดุอีกต่างหาก เขาจะไม่ยอมให้เราปรุงสุกี้ เขาจะจัดการให้เองทุกอย่าง เวลาตักแจกสุกี้ให้พวกเรามันก็หกเลอะเทอะไปหมด เพราะถ้วยเล็กเกินไป ฉันก็ได้แต่คิดว่า เออหนอ คนไทยนี่บริการได้ดีกว่านี้แน่นอน
มีเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เขาใส่เป็นลำดับสุดท้าย เราพยายามบอกเขาว่าเราอยากได้เส้นเหนียวนุ่ม ไม่อยากกินเส้นที่ต้มนานๆจนเละแบบนี้ แต่ก็พูดกันไม่รู้เรื่องก็เลยกินๆกันไป ไกด์ก็เหลือแต่ไกด์สาวที่ชื่อไพลิน ทีพูดไทยยังไม่เก่ง และไม่ค่อยเข้าใจที่เราพูด จึงจัดการให้ไม่ถูก
เอาละกินกันไป เล่าเรื่องตลกกันไป ก็สนุกสนานกันไปได้

อิ่มท้องกันแล้วก็มีของหลอกเราอีกคือ คนตัดกระดาษ ด้วยกรรไกรเพียงเล่มเดียว ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีต่อรูป ตัดให้เป็นเส้นรูปหน้าของพวกเราได้คล้ายมาก เขาก็ตัดให้ฟรี 1 คน ที่เหลือคนละ 20 หยวน คนไปเข้าคิวตัดกันเป็นแถว ในที่สุดคนหลังๆต้องจ่ายประมาณคนละ 15 หยวนเท่านั้น
|
 |
|
|
Post Number: 10
|
pilgrim 
เก่าสุดๆ

      
กลุ่ม: สมาชิกประจำ
จำนวนโพสต์: 2230
เข้าร่วมเมื่อ: 16 Jun. 2005
อัตรานิยม: ไม่มี
|
 |
โพสต์เมื่อ: 07 May 2009,23:24 |
|
 |
พี่แอ๊ดคะ เห็ดและผักน่ากินจัง ว่าแต่ กินแล้วนึกถึงปุ๋ยของเขาบ้างหรือเปล่าคะ ฮิๆๆๆๆๆ
กระดาษตัดหนูก็ไปตัดมาเหมือนกันค่ะ เป็นเสี้ยวหน้าด้านข้างตัดบนกระดาษดำ ใส่กรอบมา แต่ตอนนี้กรอบเจ๊งไปแล้วค่ะ รูปอยู่ไหนหว่า หาได้แล้วจะเอามาโชว์ค่ะ...อิๆๆๆๆๆ
จีนเป็นประเทศหนึ่งที่ พิลไปแล้วติดใจ ตอนแรกก็ไปดูงานที่ปักกิ่งและเป่ยต้าเหอ เมืองริมทะเลที่มีกำแพงเมืองจีนด้วย
ไปแล้วก็ติดใจ ไปเที่ยวคุนหมิงต่ออีก ตอนนั้น จีนยังไม่ทุนนิยมมากเท่าตอนนี้ ยังมีร่องรอยสังคมนิยมอยู่พองาม
ยังประทับใจไกด์หนุ่มคนหนึ่ง ในชื่อไทยว่ามนตรี ที่ประทับใจคือความซื่อและใจดีของเขา จนเพื่อนร่วมคณะกล่าวว่า อีกหน่อย ถ้าจีนเปลี่ยนไป เขาจะเสียดายความเป็นตัวตนของคุณมนตรีมากเลย คาดว่า ตอนนี้ คุณมนตรีอาจจะเปลี่ยนไปแล้วค่ะ
ตอนนี้ พี่ๆ น้องๆ หายๆ กันไปนะคะ ไม่ทราบกำลังยุ่งอยู่กับอะไรบ้าง จะยุ่งแค่ไหน ก็แวะมาทักทายกันซักหน่อยนะคะ
คำว่าเพื่อนดูเหมือนจะไร้กาลเวลา....
--------------

All days come from one day.
|
 |
|
|
|