|
Post Number: 12
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 09 Apr. 2004,20:25 |
|
 |
เพลงนี้เป็นเพลงที่ทันสมัยตลอดกาล เพราะกระดาษที่เขาแทนค่าว่าเป็นเงินนั้น ทำให้คนเราถึงกับต้องหลั่งเลือด ฆ่าฟัน และแย่งชิงมรดก ทรัพย์สมบัติกันอย่างไร้มนุษยธรรม โดยตกเป็นทาสของเงินตราอย่างงมงายที่สุด
เราอยู่ในสังคมทุนนิยม เราก็คงจะปฎิเสธ เงินไม่ได้ เพราะจำเป็นต้องใช้มันอยู่ทุกวัน แต่จงตระหนักไว้เถิดว่า เงินเป็นเพียงเครื่องมือชนิดหนึ่งเท่านั้น เงินไม่ใช่พระเจ้า จงอย่าตกเป็นทาสของเงิน จงรู้จักใช้มัน อย่าให้มันมาใช้เรา
อำนาจเงิน
คำร้อง - ทำนอง พยงค์ มุกดา ขับร้อง สุเทพ วงศ์กำแหง (บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2502 โดยอุดม เขียนเอี่ยม)
|
|
 |
|
|
Post Number: 13
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 10 Apr. 2004,23:48 |
|
 |
เพลง เย้ยฟ้าท้าดินนี้เป็นเพลงที่ปลุกเร้าให้เรากล้าต่อสู้กับชีวิต อย่าไปยอมแพ้กับอุปสรรค เพราะ
ข้ากระทำแต่กรรมดีมีหรือจะกลัว
หากทำดีฟ้าดินต้องคุ้มครองเอย
เหล่านี้เป็นต้น
เย้ยฟ้าท้าดิน
คำร้อง - สัมพันธ์ อุมากูล - ชาลี อินทรวิจิตร ทำนอง มงคล อมาตยกุล ขับร้อง สุเทพ วงศ์กำแหง (บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2499)
|
|
 |
|
|
Post Number: 14
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 20 May 2004,23:59 |
|
 |
เพลงนี้หนูผักกาดขอไว้หลายวันแล้วค่ะ ฟังแล้วย้อนยุคนึกถึงอดีตที่เรียบๆง่ายๆนะคะ
ที่จริงเพลงนี้ดูเผินๆก็ไม่เห็นว่าจะเกี่ยวข้องกับทางธรรมเลยนะคะ แต่ที่เอามาโพสต์ในกระทู้นี้ เพราะเห็นว่าเป็นเพลงที่สะท้อนลึกซึ้งถึง.....
ชีวิตผู้คนยุคก่อนที่อิงแอบอยู่กับธรรมชาติ มีความงามของ ดวงเดือน ทุ่งข้าว เจ้าทุย เสียงเพลง....
ทัศนะของการมองโลกในแง่ดี เพลงนี้ลีลาท่วงทำนองจะสบาย คึกคัก มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ใครที่ร้องเพลงนี้จะรู้สึกสบายใจเป็นอย่างยิ่ง
ความเรียบง่าย สมถะ มีความสุขอย่างธรรมดาๆ ไม่ได้ปรุงแต่ง อันเป็นวิถีดั้งเดิมของไทยเรา แต่ภาพอย่างนี้ในปัจจุบันคงหาดูไม่ได้แล้ว
ข้างขึ้นเดือนหงาย
คำร้อง - แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง - ชลธี ธารทอง ขับร้อง เลิศ ประสมทรัพย์ (บันทึกเสียงครั้งแรกปี พ.ศ. 2492)
|
|
 |
|
|
Post Number: 15
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 20 Jul. 2004,00:45 |
|
 |
เพลงนี้ชื่อเพลงเข้ากับกระทู้นี้เปี๊ยบเลย เข้าทำนอง กรรมตามสนอง ใครเคยก่อกรรมไว้อย่างไรก็จะได้รับกรรมแบบนั้นคืน ลองฟังดูค่ะ
กฎแห่งกรรม
คำร้อง - ทำนอง จงรัก จันทร์คณา ขับร้อง พิทยา บุญญรัตนพันธ์
|
|
 |
|
|
Post Number: 16
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 21 Jul. 2004,22:35 |
|
 |
อ้างถึง | ชาติเดียวกลัวแล้วเอย ไม่ขอเชยชิดชมรักใหม่ หากบุญฉันทำครั้งใด อุทิศให้ไปเพื่อใช้หนี้มาร |
ก็น่าจะนับว่าเข้าข่ายมีใจเป็นธรรมะนะคะ เมื่อพ่ายแพ้ผิดหวังก็ไม่จองล้างจองผลาญ ยอมรับสภาพคิดว่าเป็นการใช้หนี้ ซ้ำยังอุทิศบุญกุศลให้อีกด้วยค่ะ
หนี้มาร คำร้อง - ทำนอง ป. ชื่นประโยขน์ ขับร้อง - ชรินทร์ นันทนาคร (บันทึกเสียงครั้งแรก 2496)
|
|
 |
|
|
Post Number: 17
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 05 Sep. 2004,19:56 |
|
 |
เพลงเกิดมาพึ่งกัน เป็นเพลงที่สะท้อนการดำเนินชีวิตที่ยึดมั่นในธรรมได้ดี สอนให้คนพึ่งพากัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่แบ่งแยกผิวพรรณ ทำแต่ความดี ยึดมั่นในธรรมะ ฯลฯ
เกิดมาพึ่งกัน
ขับร้อง - สุเทพ วงศ์กำแหง
|
|
 |
|
|
Post Number: 18
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 10 Jan. 2005,19:08 |
|
 |
โบราณเขาว่า ชายสามโบสถ์ หญิงสามผัว คบไม่ได้ แต่เมื่อยามที่เรามีปัญหาชีวิต ไม่มีทางออก พระธรรมก็เป็นที่พึ่งสุดท้ายของคนเรา
 | ชายสามโบสถ์ คำร้อง-ทำนอง ไพบูลย์ บุตรขัน ขับร้อง - ชาญ เย็นแข (บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 โดยคำรณ สัมบุณณานนท์)
|
|
 |
|
|
Post Number: 19
|
add 
ฅนเก็บกวาดใบไม้

      
กลุ่ม: ฅนทำความสะอาด
จำนวนโพสต์: 4831
เข้าร่วมเมื่อ: 27 Jun. 2002
อัตรานิยม: 4
|
 |
โพสต์เมื่อ: 12 Jan. 2005,10:22 |
|
 |
ชายผู้น่าสงสาร เขาอยากจะบวช แต่ก็ไม่มีโอกาสได้บวช เป็นคนกำพร้าพ่อแม่จึงไม่มีใครบวชให้ มีบางคนไม่อยากจะบวช แต่พ่อแม่บังคับหรือขอร้องให้บวช จึงจำเป็นต้องบวช
ชายไร้โบสถ์ คำร้อง-ทำนอง จิ๋ว พิจิตร ขับร้อง - สมยศ ทัศนพันธุ์ (บันทึกเสียงครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 )
|
|
 |
|
|
Post Number: 20
|
KiLiN 
ฅนธรรมดา

      
กลุ่ม: ภารโรงประจำบ้าน
จำนวนโพสต์: 5091
เข้าร่วมเมื่อ: 12 Jun. 2002
อัตรานิยม: 3
|
 |
โพสต์เมื่อ: 19 Apr. 2005,12:07 |
|
 |
สายน้ำไม่ไหลกลับ
- วงศ์จันทร์ ไพโรจน์ -
|
เวลาและสายน้ำไหล.....ผ่านไปไม่หวนกลับ
๑ ใน ๓ เรื่องสำคัญ ที่เมื่อเกิดเป็นคนแล้วต้องตระหนักรู้ ก็คือ เวลา
สามเรื่องนั้นมีอะไรบ้าง ๑. ต้องรู้จักคุณค่าของเวลา ๒. ต้องรู้จักคุณค่าของชีวิต ๓. ต้องรู้จักหน้าที่
ถ้ารู้จักคุณค่าของเวลา เราจะไม่พูดหรือทำอะไรเพียงเพื่อฆ่าเวลา ไม่ปล่อยให้เวลา ผ่านไปๆ โดยไม่ได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ให้เป็นสาระเป็นแก่นสารกับชีวิต
กาลเวลากัดกลืนกินสรรพสิ่ง เมื่อเวลาผ่านไปๆ ทุกสิ่งก็จะเหลือแต่ความว่างเปล่า ความไม่มีอยู่จริงในที่สุด พระพุทธเจ้าจึงเตือนเราให้ตระหนักถึงคุณค่าของเวลา ก่อนที่พระองค์จะปรินิพพาน ด้วยความกรุณาและห่วงใยอย่างยิ่งว่า "สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด"
คำว่า สังขาร มิได้หมายเพียงร่างกายของเราเพียงอย่างเดียว หากแต่หมายรวมถึงสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนต้องแตกสลายต้องพลัดพรากไปในที่สุด นั่นคือต้องถูกฝังไปกับกาลเวลา เวลาไม่ต้องฆ่าเพื่อให้เวลาผ่านไป เพราะถึงอย่างไรมันก็ต้องผ่านไปอยู่แล้ว ต่างแต่เพียงว่า ผ่านไปแล้วเราและท่านได้อะไรกับมันบ้าง ถ้าเวลาไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตนี้ พระพุทธเจ้าคงไม่ปัจฉิมโอวาทเตือนเราก่อนนิพพาน
ด้วยเพราะว่าเวลาจะกลืนกินเราด้วยในที่สุด นั่นคือตาย ท่านกำลังเตือนเราว่า ทุกเวลานาที เรากำลังเดินไปหาความตายนะ ฉะนั้นจงทำประโยชน์สร้างสาระให้กับชีวิต แล้วอะไรล่ะคือประโยชน์ อะไรล่ะคือสาระของชีวิตที่แท้จริง แล้วนี่แหล่ะก็คืออีก ๒ รู้ตัวต่อมา
--------------
|
 |
|
|
Post Number: 21
|
แครอท 
ค่อนข้างใหม่

 
กลุ่ม: สมาชิกประจำ
จำนวนโพสต์: 99
เข้าร่วมเมื่อ: 05 Nov. 2005
อัตรานิยม: ไม่มี
|
 |
โพสต์เมื่อ: 14 Feb. 2006,04:34 |
|
 |
กราบขอบพระคุณนะคะ พี่แอ๊ดที่น่ารัก ผู้ซึ่งเจริญแล้ว..ละแล้วซึ่งกิเลศ ที่กรุณาส่งเพลงให้แคร์ฟัง เพลงของพี่แอ๊ด ทั้งเพราะและซึ้งใจมากจริงๆค่ะ
คนเรา มี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ สำหรับการศึกษา เพื่อให้รู้จักกลิ่นทั้งปวง อย่างถูกต้องตามความเป็นจริง เพื่อมีชีวตอยู่ได้อย่าสงบสุข
มิใช่มีตา หู จมูก ลิ้นกายใจ สำหรับไว้เป็นสื่อ ให้เราตกเป็นทาสของกิเลศ จนโงหัวไมขึ้น เหมือนที่เป็นกันอยู่โดยมาก ในโลกปัจจุบัน ซึ่งกำลังขาด ธรรมะ
เราบังคับโลกนอกตัวเราไม่ได้ก็จริง แต่เราสามารถ ควบคุม ตา หู จมูก ลิ้น กายใจ ให้สัมผัส โลก ในลักษณะที่ ถูกต้อง จะไม่เป็นพิษเป็นภัย แก่เราได้ โดยอาศัยธรรมะนั่นเอง
ถ้าคนในโลกทำได้เช่นนี้ โลกนี้ก็จะเป็นโลกที่งดงาม น่าอยู่น่าอาศัย หรือเป็นโลก ของพระศรีอาริยะเมตไตรย ขึ้นมาทันที ทันควัน เพราะเป็นโลกที่อิ่มเอิบไปด้วยธรรม
ทางรอดของโลกปัจจุบันนี้ มีอยู่ทางเดียวนี้เท่านั้น คือ เดินไปตามทางธรรม
การช่วยให้ทุกคนได้เดินไปตามทางธรรม ย่อมเป็นกุศลอันใหญ่หลวง และสูงสุด
ขอบพระคุณพี่แอ๊ดมากค่ะ ที่ให้ข้อคิดแก่แคร์ ขอกุศลผลบุญนั้น จงดลบันดาลให้ชีวิตและครอบครัว ของพี่ประสบแต่สิ่ง ฉลาด สะอาด สว่าง สงบ อย่างแท้จริงนะคะ
ด้วยความเคารพรักเป็นอย่างสูง น้องแครอท
|
 |
|
|
|